ทั่วโลกสะเทือน หลังซอฟต์แวร์ใน ‘ไมโครซอฟต์ วินโดวส์’ ทำระบบไอทีล่ม

ความขัดข้องของซอฟต์แวร์ในระบบไมโครซอฟต์ วินโดวส์ (Microsoft Windows)เมื่อคืนวันศุกร์ ส่งผลให้ผู้ใช้งานทั่วโลกไม่สามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ และแม้จะมีการแก้ไขแล้ว แต่ผลกระทบยังคงเห็นได้ในรูปของการชะงักของเที่ยวบิน ระบบโรงพยาบาลและธนาคาร ไปจนถึงสื่อไม่สามารถออกอากาศได้

เอพีรายงานว่า ใจกลางของภาวะสะเทือนโลกครั้งนี้ คือบริษัท CrowdStrike บริษัทที่ดูแลด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ให้บริการซอฟต์แวร์แก่หลายบริษัททั่วโลก โดยทางบริษัทระบุว่า ปัญหาเกิดขึ้นจากการที่คอมพิวเตอร์ในระบบวินโดว์ส่งคำสั่งให้อัพเดทระบบ ซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง

CrowdStrike ระบุว่ากำลังแก้ไขปัญหา และเหตุการณ์ระบบล่มครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการโจมตีทางระบบไซเบอร์

ความล้มเหลวของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายภาคส่วนทั่วโลก โดยสายการบินทั้งในยุโรป สหรัฐฯ และเอเชีย ไม่สามารถทำการเช็คอินและให้บริการจองตั๋วได้ ส่วนที่ออสเตรเลีย ระบบโทรคมนาคมได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนสื่อไม่สามารถออกอากาศได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีรายงานว่าโรงพยาบาลและคลินิกได้รับผลกระทบจากการไม่สามารถดูตารางนัดหมายคนไข้ ในขณะที่ธนาคารในแอฟริกาใต้และนิวซีแลนด์ก็ไม่สามารถให้บริการการชำระเงินบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นได้เช่นกัน

DownDetector ที่ติดตามการรายงานปัญหาการใช้บริหารอินเทอร์เน็ต ระบุว่าระบบซื้อสินค้าออนไลน์ สายการบินและระบบชำระเงินหลายแห่งทั่วโลกได้รับผลกระทบ แต่ระดับของความเสียหายนั้นไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทนั้น ๆ ใช้บริการฐานข้อมูลของ Microsoft หรือไม่

เคียแรน มาร์ติน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด แลอดีตหัวหน้าศูนย์ความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติของอังกฤษ กล่าวกับเอพีว่า “นี่คือภาพสะท้อนที่น่าอึดอัดมาก ๆ ว่าด้วยความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานหลักด้านอินเทอร์เน็ตของโลก”

ด้าน Microsoft 365 โพสต์ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่าบริษัท “กำลังโอนย้ายผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบไปยังระบบอื่นเพื่อบรรเทาผลกระทบ” และกำลัง “เห็นแนวโน้มทางบวกในแง่การให้บริการ”

ทั้งนี้ ทางบริษัทไม่ตอบรับคำขอความเห็นของเอพี

ที่นครมิลาน ประเทศอิตาลี ดัชนี Milano Italia Borsa (FTSE MIB) ที่ติดตามราคาหุ้นบริษัทชั้นนำของประเทศ ไม่สามารถทำการประมวลผลได้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่การซื้อขายก็สามารถดำเนินต่อไปได้

ที่สหรัฐฯ องค์การบริหารการบินแห่งชาติ หรือ FAA ระบุว่าสายการบินทั้ง United, American, Delta และ Allegiant ต่างไม่สามารถขึ้นบินได้ ในขณะที่สายการบินในอังกฤษ เยอรมนี ฮังการี สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อิตาลี และตุรกี ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน และที่ไทย พนักงานสายการบินหลายแห่งต้องทำการเช็คอินด้วยตัวเอง

บริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของอังกฤษ ระบุว่าปัญหาระบบไอที ส่งผลกระทบถึงการตรวจสอบตารางนัดหมายและเวชระเบียน แต่ยังไม่พบผลกระทบต่อบริการฉุกเฉินที่สำคัญ

รายงานจากท่าเรือในทะเลบอลติก ประเทศโปแลนด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในชุมทางขนส่งสินค้า ก็ระบุด้วยว่ากำลังเผชิญปัญหาที่ตามมาจากความขัดข้องในระบบไอทีเช่นกัน

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เดวิด ซีมัวร์ รักษาการนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ โพสต์ใน X ว่าทางการกำลัง “เดินหน้าเพื่อทำความเข้าใจถึงผลกระทบ” ที่สร้างความไม่สะดวกให้กับภาครัฐและเอกชน

  • ที่มา: เอพี

ใส่ความเห็น